ในไตรมาสแรกของปี 2561คาดว่าอุตสาหกรรมจะยังทรงตัวอยู่ตามสภาพเศรษฐกิจแต่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะเติบโตเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ยังคงยืนยันจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งเห็นได้จากการที่ผู้ผลิตรายเดิมลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่มเติม และมีโครงการรถรุ่นใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปัจจุบันทุกผู้ผลิตใช้นโยบายจัดซื้อชิ้นส่วนจากทั่วโลก (Global Sourcing) จึงถือได้ว่าTSC มีคู่แข่งอยู่ทุกประเทศและทุกภูมิภาค อย่างไรก็ตามจากที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 39 ปี TSC มีความเชี่ยวชาญสูงในการผลิตสายควบคุมได้พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตที่มีคุณภาพ ระบบส่งมอบที่ตรงต่อเวลา และกำหนดราคาผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสมมีความพร้อมและมั่นใจว่าสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นได้
HI-LEX Corporation มีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TSC ได้ร่วมทุนและเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมาเป็นระยะเวลาถึง 39 ปี มีส่วนอย่างมากในด้านการช่วยเหลือและสนับสนุนทางด้านเทคนิคในการผลิต
TSC ก่อตั้งมานานเกือบ 40 ปี แม้จะเป็นบริษัทของคนไทย แต่ลูกค้าก็ให้ความเชื่อมั่นไม่แพ้ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ เนื่องจาก TSC เน้นการปรับปรุงพัฒนาเพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและให้ความปลอดภัยสูงสุดอยู่เสมอมีการจัดตั้งห้องทดสอบปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC17025 การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของบริษัทเอง การผลิตซึ่งเกิดความประหยัดทางขนาด (Economy of scale) รวมทั้งประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตยึดมั่นในหลักธรรมมาภิบาลที่ดีจึงสามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้ามาได้โดยตลอด
TSC ไม่เคยมีกรณีพนักงานนัดหยุดงานเนื่องจากนโยบายคือ พยายามปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานและสวัสดิการของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีความสุขและเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอแนะสวัสดิการและแสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วย
บริษัทเน้นทำงานที่มีความเชี่ยวชาญ คือ ผลิตสายควบคุมยานยนต์ หากจะมีสินค้าใหม่ก็ยังจะเป็นกลุ่มสายควบคุมเป็นหลัก ในส่วนของบริษัท นอกจาก Hi-Lex Corporation ผู้ถือหุ้นใหญ่ จะมีการวิจัยเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายแล้ว ทางบริษัทก็ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งแม้จะใช้เวลา แต่มีผลดีคือ องค์ความรู้เกิดอยู่ในประเทศไทยและบุคลากรได้เรียนรู้ด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ออกแบบสายควบคุมทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์หลายๆ รุ่น และได้รับการยอมรับในคุณภาพว่าดีไม่แพ้ของญี่ปุ่น
การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสามารถเกิดได้ ซึ่งบริษัทได้มีโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมอยู่แล้ว
บริษัทและคณะกรรมการให้ความสำคัญเรื่องธรรมาภิบาลอยู่ตลอดมา และพยายามรักษาคะแนนให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของบริษัท และเข้าร่วมทุกโครงการ และหากมีโครงการเพิ่มเติมในอนาคตก็จะเข้าร่วมแน่นอน
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลาและเกิดได้กับทุกๆ สกุลเงิน ดังนั้นจึงถือเป็นสถานการณ์ปกติ และบริษัทมีการใช้นโยบายลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว
เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในช่วงเวลาที่ขายได้น้อย ถือเป็นโอกาสที่บริษัทจะได้ทบทวนว่าต้องปรับปรุงพัฒนางานและพนักงานอย่างไร เพื่อเตรียมรับในเวลาที่ตลาดฟื้นตัวกลับมา
ในปี 2560 แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 95 % รายได้จากการขายต่างประเทศ 4% และรายได้อื่นๆ 1%
สัดส่วนต้นทุนขายปี 2560 คือ 81% แบ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบประมาณ 61% และค่าแรง เงินเดือน โสหุ้ยการผลิตประมาณ 20%
แต่ละผลิตภัณฑ์มีอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกัน
สายควบคุมรถยนต์ 70%, สายควบคุมรถจักรยานยนต์ 95% และสายควบคุมรางกระจกรถยนต์ 15%
ทั้งสองฝ่ายจะกำหนดราคาร่วมกัน โดยใช้นโยบายจัดซื้อชิ้นส่วนจากทั่วโลก (Global Sourcing) แล้วนำมาพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสมเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มี 2 ทาง คือ ทางตรง เป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั้งในกลุ่มอาเซียน ยุโรปและอเมริกาใต้ และทางอ้อม เป็นการส่งออกให้ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก
มีแนวทางหลักอยู่ 3 ข้อ คือ
(1) เพิ่มยอดขาย พยายามเพิ่มการขายสำหรับลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น โดยเน้นที่กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย และที่กำลังมีแผนจะย้ายมา นอกจากนี้ยังรวมถึงการหาลูกค้าใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกด้วย
(2) ลดค่าใช้จ่าย ควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อหากมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูง จะขอปรับราคากับลูกค้า และพยายามจัดซื้อวัตถุดิบจากในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้า ฯลฯ
(3) ปรับปรุง ทำการปรับปรุงคุณภาพ, ราคา, และการจัดส่งอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ยังไม่มีในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทมุ่งดำเนินธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญมากที่สุด คือผลิตสายควบคุมยานยนต์ โดยประเมินว่าธุรกิจจะยังคงเติบโตขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในขณะเดียวกันบริษัทได้เพิ่มประเภทสินค้าของกลุ่มสายควบคุมในรถยนต์ ได้แก่ Power slide door และ Sliding window เพื่อขยายฐานลูกค้าและตอบรับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
เหล็ก 26.18% ยาง 7.38% พลาสติก 10.70% Motor 10.55% และอื่นๆ 45.19%
เพียงพอเนื่องจากมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม
TSC มีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์
ปี 2562 บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำกำไรให้มากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย
สำหรับพนักงานที่การทำงานถูกทดแทนด้วยเครื่องจักร บริษัทไม่ได้มีนโยบายที่จะเลิกจ้าง แต่จะพิจารณามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นแทน และค่าใช้จ่ายของเครื่องจักรที่นำมาใช้งานถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน
2559 | 2560 | 2561 | |
สายควบคุมรถยนต์ | |||
กำลังการผลิต (เส้น) | 54,226,400 | 51,056,232 | 59,681,500 |
การผลิตจริง (เส้น) | 26,602,771 | 31,163,716 | 33,775,794 |
อัตราการใช้กำลังการผลิต (ร้อยละ) | 49% | 61% | 56% |
สายควบคุมรถจักรยานยนต์ | |||
กำลังการผลิต (เส้น) | 26,227,632 | 22,342,632 | 21,271,592 |
การผลิตจริง (เส้น) | 7,479,386 | 8,177,777 | 8,999,520 |
อัตราการใช้กำลังการผลิต (ร้อยละ) | 29% | 37% | 42% |
ชุดควบคุมรางกระจกหน้าต่างรถยนต์ | |||
กำลังการผลิตรวม (ชุด) | 3,921,600 | 4,674,876 | 4,069,021 |
การผลิตจริง - แบบใช้สายควบคุม (ชุด) | 1,327,779 | 1,361,048 | 1,479,644 |
อัตราการใช้กำลังการผลิต (ร้อยละ) | 34% | 29% | 36% |
ยอดรวมทุกผลิตภัณฑ์ | |||
กำลังการผลิตรวม (ชุด) | 84,375,632 | 78,073,740 | 85,022,114 |
การผลิตจริง - แบบใช้สายควบคุม (ชุด) | 35,409,936 | 40,702,541 | 44,254,958 |
อัตราการใช้กำลังการผลิต (ร้อยละ) | 42% | 52% | 52% |